การออกแบบบ้านให้ใชัพลังงานน้อยลง

[fairya]

1. ปลูกต้นไม้ทรงสูงเพื่อบังแสงแดด โดยที่จะจะต้องให้มีกระแสลมเย็นพัด ผ่านใต้พุ่มไม้ใบในความเร็วที่พอเหมาะพอควร เพื่อลดอุณภูเขามิด้านนอกใกล้รอบๆบ้านแล้วก็ คุ้มครองป้องกันลมพัดผ่านเข้าตัวบ้านมากจนเกินความจำเป็น โดยควรจะปลูกต้นไม้ในทิศตะวันออกและก็ ทิศตะวันตก



2. ควรเลือกชนิดต้นไม้ที่สมควรสำหรับใช้เป็นร่มเงาที่มีอยู่ตามแคว้นได้แก่ ต้นปีบ ต้นอินทนิล ต้นสัตบัน ต้นสุพรรณิกา เป็นต้น เพื่อลดการใช้ปุ๋ย ยาฆ่า แมลงการดูแลและรักษา เนื่องจากต้นไม้กลุ่มนี้มีความคุ้นเคยกับภาวะภูมิประเทศ รวมทั้งลักษณะอากาศในประเทศไทยอยู่แล้ว

3. นำหลักภูมิสถาปัตย์มาใช้ เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมบริเวณรอบๆบ้านให้ เย็นสบาย โดยการปลูกพืชคลุมดิน ปลูกต้นหญ้า จัดแต่งสวน จัดทำน้ำตกจำลอง เป็นต้น

4. กลบดินบริเวณรอบบ้านให้สูง เพื่อให้พื้นและก็ฝาผนังเล็กน้อยต่ำกว่าดินทำให้สามารถนำความเย็นจากดินมาใช้ และปลูกไม้พุ่มรอบๆผนังบ้าน



5. ในเรื่องที่มีพื้นที่จำกัด บางครั้งอาจจะปลูกต้นไม้ดัด หรือไม้เลื้อยตามระเบียงหรือรั้ว เพื่อลดลมร้อนพัดผ่านเข้าตัวบ้าน และก็ลดความแรงของแดดที่ ส่องผิวตึก



6. ทำรางน้ำและท่อที่มีไว้สำหรับระบายน้ำจากหลังคา หรือส่วนต่างๆด้านในบ้านให้ สมควร เพื่อคุ้มครองความชุ่มชื้นซึมเข้าไปในบ้าน หรืออาจจะทำท่อสำหรับระบายน้ำที่ได้จาก แนวทางในการซักล้างไปใช้รดน้ำต้นไม้

7. ถ้าต้องการทำที่จอดรถยนต์ ควรจะทำที่จอดรถพร้อมหลังคาในด้านทิศตะวันออก หรือทิศตะวันตก เพื่อเป็นการช่วยลดความร้อนผ่านเข้ามาในตัวบ้านโดยตรง



8. บุฉนวนกันความร้อนที่หลังคาแล้วก็ผนัง โดยความดกของฉนวนที่ใช้ต้อง ขึ้นกับภาระทำความเย็น แต่จำนวนมากใช้ฉนวนที่มีความครึ้มประมาณ 2-3 นิ้ว (50-75 มิลลิเมตร) ฉนวนสำหรับหลังคารวมทั้งผนังมีหลายชนิด อย่างเช่น ฉนวนใย แก้ว ฉนวนเยื่อกระดาษ ฉนวนเซรามิกทาสีฝาผนังภายนอกของบ้านเป็นสีอ่อน ใช้สิ่งของที่มีผิวมันแล้วก็กันความชุ่มชื้น

9. ใช้กระเบื้องหลังคาสีอ่อน เพื่อสะท้อนความร้อนเจริญ

10. สำหรับผนังด้านที่มีระเบียงยื่น ควรเลือกใช้ประตูหรือหน้าต่างจำพวกบานพลิกซึ่งสามารถควบคุมจำนวนลมได้ดีกว่าการใช้ประตูหรือหน้าต่างชนิดบานเลื่อน

11.ติดตั้งหน้าต่างกระจกเฉพาะที่จำเป็นเพียงแค่นั้น โดยให้พอเพียงสำหรับการรับแสงไฟจากธรรมชาติ และก็ควรเลี่ยงการตำหนิดตั้งด้านทิศตะวันออกรวมทั้งตะวันตก

12. ทำกันสาดให้กับหน้าต่างกระจก โดยกันสาดแนวนอนเหมาะสมกับหน้าต่าง ที่อยู่ทางทิศเหนือรวมทั้งทิศใต้ ด้วยเหตุว่าสามารถบังแสงอาทิตย์ในตอนเที่ยงและก็ช่วง บ่าย ส่วนกันสาดแนวดิ่งเหมาะสมกับหน้าต่างที่อยู่ทิศตะวันออกและก็ทิศตะวันตก



13. จัดตั้งผ้าม่านหรือม่านรอบๆหน้าต่างกระจก เพื่อปกป้องความร้อนจากแสง อาทิตย์เข้าด้านในตัวบ้าน ส่วนการตำหนิดฟิล์มถ่ายรูปกรองแสงสว่างที่กระจกหน้าต่างนั้น แม้จะคุ้มครองป้องกัน ความร้อนจากแสงตะวันได้ดีมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นค่าใช้สอยสูงขึ้นมากยิ่งกว่าก็เลยไม่ค่อยเป็นที่ชื่นชอบ

14. สำหรับห้องนอนหรือห้องที่ปรารถนาปรับอากาศที่ตั้งอยู่บริเวณชั้นสองเหนือ รอบๆที่จอดรถหรือระเบียง ควรมีการทาหรือพ่นฉนวนที่ฝ้าเพดานของที่จอดรถ หรือระเบียงนั้นๆเพื่อคุ้มครองปกป้องการนำความร้อนจากด้านนอกผ่านใต้พื้นของห้องเข้า สู่ตัวห้อง

15. ติดตั้งพัดลมสำหรับระบายอากาศบนหลังคา เพื่อดูดอากาศร้อนใต้หลังคาออกไป ข้างนอก

16. ทำระเบียงยื่นพร้อมชิดกันสาดในทิศตะวันออกรวมทั้งทิศตะวันตก สำหรับใช้ เป็นที่นั่งกินอาหารว่างหรือใช้ทำอาหารนอกบ้านแล้วยังช่วยลดความร้อนเข้ามา ในบ้านอีกด้วย

17. ทิศเหนืออยรั่วด้วยปูนซีเมนต์หรือซิลิโคน (Silicone) ที่ช่องติดตั้งประทีป ช่องติด ตั้งพัดลมเพดาน ช่องที่จัดแจงไว้สำหรับเดินท่อน้ำ ฯลฯ เพื่อคุ้มครองปกป้องความ ร้อนจากด้านนอกผ่านเข้าช่องเพดาน

18. อุดรอยรั่วตามรอยต่อ ระหว่างผนังขอบประตู หน้าต่าง เพื่อคุ้มครองป้องกันความ ร้อนและก็ความชุ่มชื้นจากข้างนอกผ่านเข้าไปในบ้าน ในกรณีที่ห้องนั้นเป็นห้อง ปรับอากาศ

19. จัดวางตู้และก็ชั้นที่เอาไว้สำหรับวางสิ่งของให้เหมาะสม ไม่บังลม ไม่กีดขวางการระบาย อากาศ และไม่บังแสง

20. จัดวางโต๊ะเขียนหนังสือให้หันหน้าไปในผนังด้านที่รับแสงสว่างธรรมชาติได้

21. หมั่นรักษาทำความสะอาด ประพรม ผ้าม่าน โซฟา ไม่ให้เปียกแฉะ เพื่อลดภาระทำความเย็นด้วยเหตุว่าความร้อนซ่อนเร้น



22. แยกห้องใช้สอยโดยพิจารณาถึงการประหยัดพลังงาน โดยจัดห้องที่ใช้ ตอนเวลาเช้าอยู่ในทิศตะวันออก ส่วนห้องที่ใช้สอยเกือบทั้งวันให้อยู่ทิศเหนือ เนื่องจากจะเย็นสบายที่สุด ตัวอย่างเช่น ห้องนั่งเล่นอยู่ในทิศเหนือ เป็นต้น

23. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ระบายความร้อนด้วยอากาศในที่ร่ม หรือใต้ต้นไม้ รวมทั้งจะต้องไม่มีสิ่งกีดขวางทางลมเข้าและออกจากคอนเดนเซอร์ ในด้านทิศ เหนือของบ้านเป็นด้านที่เหมาะสมที่จะติดตั้งคอนเดนเซอร์เยอะที่สุด แต่ว่าถ้าไม่ สามารถติดตั้งในด้านทิศเหนือก็สามารถติดทางใต้ที่มีกันสาดแทนได้

24. ควรจัดตั้งคอนเดนเซอร์ในที่ๆสามารถดูแลบำรุงรักษาสบาย แล้วก็ใน ที่ๆไม่ส่งเสียงรบกวนเข้ามาด้านในห้อง



25. ควรจะติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ในการควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) ด้านในห้องปรับอากาศ ให้สมควรหมายถึงไม่ควรโดนแสงอาทิตย์โดยตรง เพราะเหตุว่าจะทำให้เทอร์โมสตัท อ่านค่าผิดพลาด รวมทั้งควรจะจัดตั้งในรอบๆที่มีความสามารถที่จะอ่านค่าอุณหภูมิได้ง่ายแล้วก็ รวมทั้งสะดวกต่อการปรับตั้งค่าอุณหภูมิตามอยากได้

26. ควรจะติดตั้งเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า ในบริเวณที่ไม่ปรับอากาศและเปิดโล่งเตียน เช่น ที่จอดรถ ระเบียงนอกบ้าน เพื่อระบายความร้อนแล้วก็ลดความชุ่มชื้นที่ปลด ปลดปล่อยมาจากอุปกรณ์ไฟฟ้ากลุ่มนี้ แต่ถ้าจำต้องจัดตั้งในห้องปิด น่าจะต้องติด ตั้งพัดลมที่มีไว้ระบายอากาศ เพื่อคุ้มครองการสั่งสมความร้อนและก็ความชุ่มชื้นภายในห้อง



27. ไตร่ตรองทำครัวให้อยู่นอกตัวบ้าน แต่ว่าถ้าหากหลีกเลี่ยงไม่ได้ห้องครัวที่อยู่ ภายในตัวบ้านควรมีการระบายความร้อนที่ดี ด้วยเหตุว่าครัวมักประกอบด้วย อุปกรณ์ไฟฟ้าหลายแบบ ดังเช่น เตาอบ เตาหุง กาต้มน้ำร้อน ตู้เย็น ซึ่งเป็น แหล่งปลดปล่อยความร้อนที่สำคัญ



28. จัดตั้งเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันใบริเวณที่ทำงานหุงหาอาหารแล้วก็อากาศ ที่ใช้กับเครื่องดูดกลิ่นหรือดูดควันนี้ ควรจะมาจากภายนอกบ้านไม่สมควรใช้อากาศ เย็นจากแอร์โดยตรง

29.เลือกใช้เครื่องมือรวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าประสิทธิภาพสูง นอกจากจะประหยัด พลังงานจากตัวมันเองแล้วยังลดความร้อนที่ถูกปล่อยออกมาในเวลาใช้งาน อีกด้วย ดังเช่นว่า ใช้ตู้เย็นประสิทธิภาพสูง ใช้หลอดไฟฟ้าสมรรถนะสูง ฯลฯ

[Shopd2]

 ดันกระทู้

[Naprapats]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ

[Chanapot]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

ดันๆ

[deam205]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Ailie662]

 ดันกระทู้

[Chanapot]

ดันๆ

[Beer625]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Chigaru]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Ailie662]

ดันๆ

[Chanapot]

ดันๆ

[Hanako5]

 กลับมาดัน ขอบคุณครับ

[Jenny937]

 กลับมาดัน ขอบคุณค่ะ