• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

📢การเจาะสำรวจดิน (Soil Boring Test) 📢จุดเริ่มต้นงาน วิศวกรรมโยธา⚡

Started by Naprapats, July 19, 2024, 12:03:06 PM

Previous topic - Next topic

Naprapats

งาน การสำรวจดิน และ การทดสอบดิน ถือเป็นสาขาหนึ่งที่สำคัญอันดับต้น ๆ ของงาน วิศวกรรมโยธา กล่าวคือ โครงสร้าง อาคาร ต่าง ๆ ล้วนถูกสร้างอยู่บนพื้นดิน และชั้นดินในบริเวณนั้น ๆ ซึ่งทำหน้าที่รับน้ำหนักของสิ่งปลูกสร้างด้านบนผ่านโครงสร้างใต้ดินที่เรียกว่า ฐานราก ดังนั้นการสำรวจสภาพชั้นดินและทดสอบหาคุณสมบัติดินจึงมีความจำเป็นต่อการ การออกแบบฐานราก

คุณภาพของข้อมูลจากการสำรวจสภาพชั้นดินเป็นสิ่งสำคัญยิ่งต่อผู้รับผิดชอบในงาน ออกแบบโครงสร้าง เนื่องจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับงาน งานก่อสร้าง นั้นเป็นปัญหาที่แก้ได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง โดยเฉพาะเมื่อมี โครงสร้างเหนือพื้นดิน ดังนั้น ข้อมูลชั้นดินที่มีความถูกต้องและเพียงพอจะช่วยให้ผู้ออกแบบสามารถ ออกแบบโครงสร้างใต้ดิน ได้อย่างเหมาะสม ประหยัด ปลอดภัย และสามารถลดต้นทุนโครงการได้

🛒📌🦖✨🥇🛒✅👉📢
Quoteบริการ รับเจาะดิน | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท เจาะสํารวจดิน บริการ รับเจาะดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
⚡✨🥇📌🦖🎯🦖🎯✅

การ เจาะสำรวจดิน คือกรรมวิธีการเจาะลงไปในชั้นดิน, เก็บตัวอย่างดิน, ทดสอบคุณสมบัติดินในสนาม, หยั่งชั้นดินจากผิวดิน หรือใช้เทคนิคอื่น ๆ เพื่อให้ได้มาซึ่งลักษณะชั้นดินทั้งทางแนวดิ่ง และการเปลี่ยนแปลงทางแนวราบ เพียงพอในการที่จะใช้ออกแบบ หรือศึกษาทางด้านปฐพีกลศาสตร์ ลักษณะการสำรวจชั้นดินจะต้องคำนึงถึงประโยชน์ใช้งานด้วย เช่น งานถนนหรือสนามบิน การสำรวจจะกระทำเพียงตื้น ๆ แต่งาน ฐานรากเสาเข็ม ต้องสำรวจลงไปลึกกว่าปลายเข็มที่คาดว่าจะใช้งาน สำหรับในบทนี้จะพูดถึงการสำรวจโดยวิธีเบื้องต้น โดยใช้ สว่านมือ (Hand Auger) การเจาะล้าง (Wash Boring) และการเก็บตัวอย่างดินโดยใช้ กระบอกบาง

🥇🥇🥇เหตุผลในการเจาะสำรวจดิน🥇🥇🥇

🛒1. เพื่อให้รู้ประเภทและชนิดของดินใต้พื้นที่ก่อสร้าง ทราบลักษณะเชิงกล เราจะได้เลือกใช้ ฐานรากได้ถูกประเภท เช่น หากดินแข็งพออาจจะเลือกใช้เป็น ฐานแผ่ แทน
✨2. เพื่อให้ทราบความลึกของชั้นดินดาน (ดินแข็ง) ว่าลึกเท่าไร เพื่อนำไปคำนวณกำลังรับน้ำหนักของเสาเข็ม เลือกขนาดและความยาวเสาเข็มที่ต้องใช้ได้
🎯3. ป้องกันความผิดพลาดในการตอกเสาเข็ม เพราะหากเจอชั้นดินแข็ง แต่ไม่หนาที่ชั้นความลึกไม่มาก อาจทำให้คนตอกเสาเข็มหยุดตอก เพราะคิดว่าถึงชั้นดินแข็งแล้ว ทั้งที่จริง ๆ สามารถตอกทะลุลงไปได้อีก หากดินในบริเวณที่สำรวจมีความผันผวนมาก วิศวกรควรสั่งให้เจาะสำรวจดินหลาย ๆ หลุมให้เพียงพอ เพื่อเปรียบเทียบ เพราะอาจต้องออกแบบฐานรากหลายชนิด สำหรับก่อสร้างอาคารนั้น

🎯🎯🎯การเจาะสำรวจดินที่นิยมใช้ มีกี่ประเภท?⚡⚡⚡

📢1. การเจาะล้างด้วยเครื่องเจาะกระแทก (Percussion Drilling) 🛒คือการเจาะที่อาศัยแรงกระแทกของ สิ่วหนัก, Spun หรือ Wash boring ในการนำดินขึ้นมาจากหลุม แต่เพราะมีแรงกระแทก ทำให้เกิดการรบกวนตัวอย่างดินในชั้นที่อยู่ลึกลงไป ดังนั้น ต้องใช้ประสบการณ์ ความชำนาญ ในการควบคุมการเจาะเพื่อให้รบกวนดินน้อยที่สุด
📌2. การเจาะล้างด้วยเครื่องเจาะปั่น (Rotary Drilling) ✨คือการใช้ใบมีดหรือหัวเจาะหมุนลงไปในดิน โดยกำลังของเครื่องยนต์ ทำงานได้เร็ว นิยมใช้สำหรับเจาะหิน แต่ต้องใช้น้ำเป็นตัวช่วยระบายความร้อนที่หัวเจาะที่ก้นหลุมด้านล่าง

🥇🥇🥇ข้อดี-เสีย เครื่องเจาะกระแทก VS เครื่องเจาะปั่น⚡⚡⚡

เครื่องเจาะกระแทก✅👉📢 (Percussion Drilling)
✨1. น้ำหนักเบา การขนย้ายทำได้สะดวก🎯
🦖2. เคลื่อนย้ายเข้าตำแหน่งหลุมเจาะได้ง่ายสามารถทำงานภายในพื้นที่แคบ ๆ ได้🎯
📢3. สิ้นเปลืองเชื้อเพลิงน้อย เมื่อเทียบกับแบบเจาะปั่น🌏

เครื่องเจาะปั่น⚡✨🥇 (Rotary Drilling)
✅1. สามารถเจาะหลุมได้ทุกขนาด และทุกสภาพชั้นดิน หรือแม้แต่ชั้นหิน📢
✅2. การเคลื่อนย้ายเข้าพื้นที่สำรวจที่มีความลาดชันทำได้ง่ายกว่าเครื่องเจาะกระแทก📢
🥇3. การติดตั้งท่อกันดินในระดับลึกทำได้ง่าย🦖
✨4. ช่วยการติดตั้งท่อและอุปกรณ์สำหรับการทดสอบต่าง ๆ🎯
✅5. อัตราการเจาะหลุมเร็วกว่าเครื่องเจาะกระแทก🛒

📢📢📢บทสรุป⚡⚡⚡

สภาพชั้นดินในหลายพื้นที่ของประเทศไทยนั้นอาจมีการเปลี่ยนแปลงของชั้นดิน ทำให้ลักษณะพื้นที่แตกต่างไปจากพื้นที่ทั่วไป เช่น มีชั้นทรายหลวมผิดปกติ มีชั้นดินเหนียวอ่อน หรือระดับความลึกของชั้นดินที่แข็งแรงมีความผันแปรสูง เป็นต้น จากลักษณะของชั้นดินเหล่านี้ อาจทำให้ฐานรากเกิดการวิบัติได้ ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายอย่างคาดไม่ถึง ก่อนที่วิศวกรจะทำการออกแบบฐานรากให้ดีและเหมาะสมนั้น จึงต้องจัดให้มีการสำรวจดินอย่างเพียงพอ เพื่อให้การออกแบบสิ่งก่อสร้างต่าง ๆ เป็นไปอย่างละเอียดรอบครอบ ถูกต้องตามหลักวิศวกรรม เพื่อการวิเคราะห์ดินจากการสังเกตและประสบการณ์ เมื่อทราบข้อมูลดินบางส่วน จะต้องมีการวางแผนการเจาะดิน เพื่อให้ประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย พร้อมกับได้ข้อมูลที่ถูกต้อง เพราะคุณสมบัติดินซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงตามสถานที่ต่าง ๆ จึงยังไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับดินทุกชนิดอย่างสมบูรณ์