พิมพ์แคตตาล็อก

[dsmol19]

พิมพ์แคตตาล็อก
งานพิมพ์แคตตาล็อกแท้จริงแล้วตามความหมายที่ถูกต้อง เป็นสิ่งพิมพ์ที่มีลักษณะเป็นเล่มหรือเอกสารเย็บเล่มที่
จะต้องมีบทนำ สารบาญ เนื้อหาโดยไม่ได้ต่างอะไรจากหนังสือฉบับย่อหนึ่งเล่ม แต่ว่าหากว่าในขณะนี้งานเอกสารแคตตาล็อกได้มีการ
เปลี่ยนความหมายไปเป็นการตามลักษณะของการใช้แรงงาน ซึ่งความหมายแปลงเป็นสิ่งพิมพ์ที่แสดงเนื้อหา
ของสินค้าโดยจะมีรูปภาพประกอบและอาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีคำพรรณนาหรือคำแนะนำสินค้าดูแลไว้ ซึ่งปัจจุบันนี้เปลี่ยนเป็นว่าสิ่ง
พิมพ์แคตตาล็อกไม่จำเป็นต้องเป็นรูปเล่มหรือจะต้องมีส่วนประกอบอย่างบทนำแล้วก็สารบัญก็ได้ โดยที่นิยมมากมายในตอนนี้
ก็คือสิ่งพิมพ์แคตตาล็อกแบบแผ่นพับ เป็นต้น
ลักษณะของแคตตาล็อกที่ถูกเป็นงานเอกสารสื่อโฆษณาชนิดการแสดงระเอียดรายการที่สินค้าที่ผู้จัดทำ
ปรารถนาเสนอ โดยจะมีภาพประกอบผลิตภัณฑ์ ชื่อผลิตภัณฑ์รวมทั้งเนื้อหาของผลิตภัณฑ์นั้น ซึ่งอาจจะมีการจำแนกแยกแยะเป็นกรุ๊ป
ชนิดผลิตภัณฑ์เพื่อจ่ายต่อการแยกเป็นชนิดและประเภท โดยจะมีการจัดทำสารบัญเพื่อง่ายต่อการค้นหา ทั้งหมดเอกสารทั้งหมดทั้งปวงจะถูก
ทำเป็นแบบรูปเล่มคล้ายกับวารสาร โดยเป้าประสงค์ด้านการใช้งานของการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นเจาะจงแจ่มกระจ่างใน
ด้านเนื้อหา ต่างจากงานพิมพ์โฆษณาจำพวกอื่นๆที่ผู้จัดทำต้องการจะใส่รายละเอียดชนิดไหนลงในสิ่งพิมพ์ก็ได้ แต่ว่าสำหรับ
สิ่งพิมพ์นี้ถ้าหากเมื่อคนเอ๋ยถึงสิ่งพิมพ์แคตตาล็อก ในความคิดทุกท่านจึงควรนึกภาพเอกสารที่มีรูปสินค้าและเนื้อหาโดยทันที
แต่เนื่องด้วยการพิมพ์แคตตาล็อกเป็นแบบรูปเล่มนั้นมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากมายรวมทั้งมีความดกรวมทั้งขนาดใหญ่
จึงไม่เหมาะสมสำหรับเพื่อการใช้งานจำพวกการแจกจ่ายแบบทั่วไปตามท้องถนน จึงทำให้มีการจัดทำแผ่นพับที่ระบุจำพวกเจาะจงรายละเอียด
สินค้า และก็ทำให้คนทั่วไปเรียกแผ่นพับกลุ่มนี้ว่าแคตตาล็อกกันอย่างมากมายซึ่งนับว่าไม่ถูกต้องตามหลักการใช้งานควรจะเรียก
เป็นแผ่นพับมากกว่า สำหรับการพิมพ์แคตตาล็อกนั้นคนจัดทำจำต้องวางรูปแบบการดำเนินเรื่อง โครงสร้างเนื้อหา หมวดหมู่ แล้วก็ปริมาณ
หน้า รวมทั้งปริมาณเล่มที่ต้องผลิต ด้วยเหตุว่าการแบบการพิมพ์ไม่ต่างอะไรจากหนังสือเนื่องจากว่าปริมาณเล่มจำต้องเยอะแยะในระดับหนึ่งเพื่อ
คุ้มค่ากับต้นทุนสำหรับในการทำแม่พิมพ์ไม่น้อยเลยทีเดียว
ขนาดของงานพิมพ์แคตตาล็อกโดยธรรมดาควรจะใช้ขนาดราวๆ A4 , A5 ,A6 หรือบางทีอาจจะใหญ่หรือเล็กกว่าสัก
เล็กน้อย เพราะว่าถ้าหากขนาดที่แปลกเกินความจำเป็นบางทีอาจจะจำเป็นต้องเสียค่าแผ่นพิมพ์เพิ่มเติม การเลือกใช้กระดาษก็มักจะเป็นกระดาษปอนด์หรือ
อาร์ตมัน แม้กระนั้นที่จะต้องพิจารณาเรื่องความสวยงามเป็นพิเศษนั่นคือ ปกของแคตตาล็อก โดยมักจะใช้กระดาษที่มีความครึ้มกว่า
ด้านใน ได้แก่ อาร์ตการ์ด เป็นต้น ทั้งนี้อาจจะเป็นไปได้ว่าจะมีการตกแต่งพิเศษประเภท Spot UV หรือ ปั๊มนูน ส่วนในที่สุดการเข้ารูปเล่มจะ
เป็นแบบเย็บมุงหลังคา หรือการไสสันทากาว แบบไหนก็ขึ้นกับความครึ้มของรูปเล่มอีกทีหนึ่ง
เพราะพิมพ์แคตตาล็อกนั้นมีค่าใช้จ่ายที่มากจึงไม่นิยมใช้เป็นสื่อโฆษณาที่ใช้แจกบ่อยเกินและไม่เหมาะกับ
กรุ๊ปลูกค้าทั่วๆไป ต้องใช้สำหรับกลุ่มลูกค้าที่ความสนใจจริงๆและก็ได้โอกาสบริโภคเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น กรุ๊ปลูกค้าเดิมที่มีในฐานข้อมูล
ก็บางทีอาจจะใช้การจัดส่งผ่านไปรษณีย์ให้ลูกค้าโดยตรง หรือบางครั้งอาจจะเป็นลูกค้าที่เข้ามาซักถามถึงสินค้าของท่านหรือเข้ามาในส่วน
ของร้านค้าท่านแล้ว เช่น ลูกค้ามาเดินชมรถยนต์ในโชว์รูมรถยนต์ ต้องแจกแคตตาล็อกที่มีรายละเอียดอื่นๆให้ประกอบการ
ตกลงใจเพื่อสร้างความซาบซึ้งให้ลูกค้า ท้ายที่สุดการพิมพ์แคตตาล็อกจะต้องมีการวางเป้าหมายรวมทั้งนึกถึงความเหมาะสมเป็น
อย่างยอดเยี่ยมเสียทุกหนก่อนที่จะมีการทำ